เสขิยธรรม
จดหมายข่าวเสขิยธรรม
-
หน้าแรก | สมุดเยี่ยม | แนะนำหน้านี้ให้เพื่อน | แผนผังไซต์

เสขิยธรรม ฉบับที่ ๖๒
ตุลาคม - ธันวาคม ๒๕๔๗

เสขิยบุคคล
ส.ศิวรักษ์
ขยายความจากที่ ส. ศิวรักษ์ แสดงในงานร้อยวันแห่งการจากไปของนายเจริญ วัดอักษร
ณ วัดสี่แยกบ่อนอก ประจวบคีรีขันธ์ วันเสาร์ที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๔๗

คำกล่าวสดุดี ในพิธีมอบเหรียญ เจริญ วัดอักษร แด่..

นางจินตนา แก้วขาว

 

เ มื่อตอนที่มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ขอให้ข้าพเจ้าทำพิธีมอบปริญญาบัตรดุษฎีกิตติมศักดิ์ แด่คุณเจริญ วัดอักษร และ คุณจินตนา แก้วขาวนั้น ถือว่านั่นเป็นนิมิตหมายอันสำคัญยิ่ง ดังคำพูดของข้าพเจ้าคราวนั้น มีตีพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษด้วยแล้วใน Seeds of Peace ฉบับกันยายน – ธันวาคม ๒๕๔๓

          ถือได้ว่ามหาวิทยาลัยเที่ยงคืน คือสัญลักษณ์แห่งการท้าทายอุดมศึกษากระแสหลัก ซึ่งแม้จะเรียน จะสอน แม้จนทำงานวิจัยกัน กลางวัน แต่ส่วนมากก็มืดบอดทางด้านความงามความดีและความจริง ดุษฎีบัณฑิตแห่งมหาวิทยาลัยนั้นๆ รับใช้นายทุนและนักการเมือง ยิ่งกว่าจะเข้าหาผู้ยากไร้ ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ที่มหาวิทยาลัยเหล่านั้นมอบให้ มักได้แก่ นายทหาร นักการเมืองหรือนักการค้า หาไม่ก็ถือเอาชาติวุฒิเป็นเกณฑ์ คนธรรมดาสามัญ โดยเฉพาะในระดับรากหญ้า ที่มีคุณธรรมและมีวิสัยทัศน์อันลุ่มลึกและกว้างไกล ไม่เคยได้รับเกียรติอันจอมปลอมนี้เลย

          ใช่แต่เท่านั้น ผู้บริหารมหาวิทยาลัยหลายแห่งก็ฉ้อฉลทุจริต และใช้อำนาจบาทใหญ่ในหลายต่อหลายทาง ดังอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงถึงกับฟ้องอาจารย์จรัญ โฆษณานันท์ ในกรณีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเอาเลย เพียงเพราะเขาไม่สยบยอมให้กับความไม่ชอบมาพากลต่างๆ ของตัว ที่เข้าไปพัวพันกับนักการเมืองตัวโตๆ อย่างน่าสงสัยในทางจริยธรรม อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ก็ขอให้ตำรวจยื่นฟ้องอาจารย์ชัชวาล ปุญปัน ที่แจ้งไปยังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่อธิการบดีไม่ยอมให้ข้าพเจ้าเข้าไปแสดงปาฐกถาในมหาวิทยาลัยนั้น ดังหนึ่งกับว่าสถาบันของทางราชการเป็นบ้านส่วนตัวของอธิการบดีฉะนั้น คณะกรรมการดังกล่าวลงมติออกมาแล้วว่าอธิการบดีเป็นฝ่ายผิด เขาก็ฟ้องคณะกรรมการสิทธิฯ อีกด้วย โดยที่ศาลปกครองก็ได้ยกฟ้องไปแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ลามือ ส่วนอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่นคนก่อนนั้น ถึงกับแกล้งนักศึกษาไม่ให้ได้เข้าสอบ จนเป็นคดีขึ้นโรงขึ้นศาลกันต่อมาอีกด้วย ดังจะให้ข้าพเจ้าจารนัยความฉ้อฉล ของผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษากระแสหลักออกไปอีกเท่าไรก็ได้ หากไม่ต้องการเสียเวลาไปกับความเลวร้ายพวกนี้ โดยที่พึงตราไว้ด้วยว่าคณาจารย์ในสถาบันเหล่านี้ มีเป็นจำนวนไม่น้อยที่มักดูถูกคนยากไร้ หากหันไปประจบประแจงคนที่มีทรัพย์และมีอำนาจอย่างปราศจากหิริโอตัปปะเอาเลย ทั้งๆ ที่คณาจารย์พวกนี้นั้น หลายต่อหลายคนก็เคยเป็นคนยากคนจนมาก่อน

          กล่าวได้ว่ามหาวิทยาลัยเที่ยงคืนคือสัญลักษณ์ของการตื่น ในขณะที่มหาวิทยาลัยอื่นๆ ส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะของรัฐหรือเอกชน เป็นไปในทางหลับใหล งมงาย อย่างถูกสะกดโดยอำนาจนิยม ทุนนิยมและบริโภคนิยมแทบทั้งนั้น โดยเราต้องไม่ลืมว่า เวลาเที่ยงคืนในทางสากล ถือว่าเป็นการเริ่มวันใหม่ ดังประเทศอินเดียก็ได้รับเอกราชตอนเที่ยงคืน โดยเราต้องไม่ลืมว่าพระศาสดาของเราก็ทรงมีพระชาติภูมิที่ประเทศนั้น และความเป็นพุทธนั้น ตามความหมายที่แท้ก็คือการตื่นนั้นแล คือตื่นจากโลภ โกรธ หลง พุทธศาสนาช่วยให้ผู้เดินตามทางของพระพุทธองค์ได้กลายสภาพจากความโลภมาเป็นทานการให้ กลายสภาพจากความโกรธไปเป็นความรัก และกลายสภาพจากความหลงไปเป็นความเข้าใจ หรือความรู้รอบและรู้จริง คือรู้อย่างเป็นองค์รวม

          คุณเจริญและคุณจินตนา เป็นพุทธมามกะ ผู้เดินตามทางของพระพุทธเจ้า เพื่อเข้าหาความงาม ความดี และความจริง ผลงานของเขาทั้งสองไม่ได้เป็นไปเพื่อความเห็นแก่ตัว หรือเพื่อยกหูชูหาง ดังนักวิจัยกระแสหลัก หากเป็นการค้นคว้าหาความจริง ซึ่งผนวกไปกับความดีและความงาม เป็นไปเพื่อผดุงไว้ซึ่งธรรมชาติอย่างเหมาะสม เพื่อเกื้อกูลสรรพสัตว์ ทั้งในน้ำและบนบก และเพื่อความยุติธรรมในสังคม จึงสมควรแล้วที่คนทั้งสองนี้ได้รับการยกย่องถึงขั้นดุษฎีบัณฑิต ซึ่งมีค่ายิ่งกว่าดอกเต้อดอกตีนเป็นอันมาก โดยเฉพาะก็พวกที่ขายตัวให้กับอำนาจและเงินตรา หาไม่ก็ไม่กล้าแสดงจุดยืนทางจริยธรรม เพื่อเข้าข้างผู้ยากไร้ หรือไม่กล้าหาญทางจริยธรรมพอที่จะยืนหยัดอยู่ฝ่ายสัจจะ

          อนึ่ง ปาฐกถาของคุณจินตนาในวันนี้ นับว่ามีเนื้อหาสาระอันควรแก่การรับฟัง และนี่ก็เป็นการเปิดเวทีที่สำคัญอีกประการหนึ่ง เพราะปาฐกถาที่แล้วๆ มา มักแสดงกันแต่โดยนักวิชาการ จริงบ้างปลอมบ้าง หาไม่ก็จากชนชั้นสูง ซึ่งมักจะปลอมมากกว่าจริง แม้ปาฐกถาประจำปี ก็มักให้เกียรติแก่คนซึ่งเป็นที่ยอมรับกันในสังคม ที่สวมหัวโขนต่างๆ ไว้โดยปิดบังความน่าเกลียดอยู่ข้างใน หากวันนี้มีปาฐกถายกย่องคนธรรมดาสามัญอย่างคุณเจริญ วัดอักษร ซึ่งมีความจริงใจและความกล้าหาญ ยิ่งกว่าชนชั้นกลางและชนชั้นสูงโดยทั่วๆ ไป จะกล่าวว่าคุณเจริญเป็นธงชัยของพวกเราก็ว่าได้

          พวกเราในที่นี้ไม่ได้หมายเพียงชาวบ่อนอกกับบ้านกรูดเท่านั้น หากหมายถึงชาวบ้านร้านตลาด ชาวไร่ชาวนา รวมถึงกรรมกรและชาวประมงทั่วไป ที่ถูกเบียดเบียนบีฑามาโดยตลอด โดยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตรและก่อนหน้านั้น รวมถึงนายทุน ตลอดจนเจ้าของที่ดิน ซึ่งเอาเปรียบราษฎรตาดำๆ และเอาเปรียบธรรมชาติทั้งหมด ทั้งๆ ที่พวกเขาควรกตัญญูรู้คุณน้ำ รู้คุณป่า รู้คุณแผ่นดิน รู้คุณปลา รู้คุณสัตว์สองเท้าและสี่เท้า และรู้คุณผู้คนทั้งหลาย เพราะทั้งหมดนี้แลคือองค์รวมที่ช่วยให้เราอยู่กินกันได้อย่างผาสุก

          การที่คุณเจริญถูกฆ่าตายนั้น คือสัญลักษณ์ของความไม่ตาย ดังมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนคือสัญลักษณ์ของความสว่างนั้นแล โจรหรือลูกสมุนของโจร ซึ่งถึงจะอยู่ในคราบของนายทุน เจ้าของที่ดิน หรือนักการเมืองก็ตามที ฆ่าได้แต่ร่างกาย แต่ฆ่าคุณธรรม ความดี และการต่อสู้อันชอบธรรมไม่ได้

          การตายของคุณเจริญเป็นส่วนหนึ่งของฆาตกรรม ดังที่เกิดขึ้นทั่วไปในประเทศนี้ รวมถึงการอุ้มคุณสมชาย นิลไพจิตรเมื่อเร็วๆ นี้ และการสังหารหมู่อย่างอำมหิตที่มัสยิดกรือเซะทางปัตตานี เรื่อยไปจนถึงการหายตัวไปของคุณทนง โพอ่าน เมื่อสมัย รสช. ยึดอำนาจอย่างเลวร้าย และถอยไปได้ถึงการสิ้นชีวิตของนักต่อสู้ในสมัย ๑๔ ตุลาคม และ ๖ ตุลาคม จนถึง พฤษภาคม ๒๕๓๕ หากจักไม่ขอเอ่ยชื่อท่านนั้นๆ ไว้ในที่นี้ เรื่อยไปจนถึงก่อนหน้านั้น ซึ่งรวมถึงการสังหารนักหนังสือพิมพ์อย่างคุณอารี ลีย์วีระ และอดีต ส.ส. ที่ทำคุณให้บ้านเมืองอย่างอเนกปริยาย เช่น คุณเตียง ศิริขัณฑ์ คุณทองอินทร์ ภูริทัต คุณจำลอง ดาวเรือง ฯลฯ ดังที่ หะยีสุหลง อับดุลกาเดร์ ก็เช่นกัน และอีกหลายต่อหลายคนที่เป็นเหยื่อของมาร ซึ่งยังมีอนุสาวรีย์อยู่ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน คือ เผ่า ศรียานนท์ ซึ่งเป็นต้นแบบให้คนอย่างทักษิณ ชินวัตร ในเวลานี้ รวมถึงอนุสาวรีย์ของ ส. ธนรัชต์ ที่ ขอนแก่น และ ป. พิบูลสงคราม ที่ลพบุรี

          อนุสาวรีย์ที่ว่านี้มีไว้ขายความอาย ไว้อวดความอัปยศ เราไม่ต้องการอนุสาวรีย์เช่นนั้น สำหรับคุณเจริญ วัดอักษร และผู้ที่เสียชีวิตไปโดยน้ำมือมาร หากท่านนั้นๆ มีอนุสาวรีย์ปรากฏอยู่แล้วในน้ำใจของพวกเรา เป็นอนุสาวรีย์ในทางคุณธรรม และเราต้องการคุณธรรมดังกล่าว เพื่อการรวมพลังกันของประชาราษฎร ทั้งที่นี่และที่อื่นๆ ซึ่งถูกมารรุกรานในนามของคำว่าพัฒนา ไม่ว่าจะที่กาญจนบุรี อุดรธานี สงขลา และอื่นๆ โดยที่ราษฎรในขั้นรากหญ้า ในขั้นรากข้าว ในขั้นชาวนา ชาวสวน ชาวทะเล และกรรมกร ต้องรวมตัวกันกับนักวิชาการนอกระบบ กับพ่อค้าและนักธุรกิจ แม้จนข้าราชการที่รักความยุติธรรม ที่มีความกล้าหาญทางจริยธรรม หากร่วมกันด้วยสามัคคีธรรม และด้วยอหิงสธรรม โดยใช้สติและปัญญาเป็นตัวนำ เพื่อเอาชนะความกลิ้งกล่อน ความหลอกลวงและความโสมม ซึ่งสร้างขึ้นมาจนเป็นโครงสร้างทางสังคม ซึ่งอยุติธรรมและรุนแรง ดังปรากฎเป็นรูปร่างที่เห็นได้ชัดในรัฐบาลปัจจุบัน ภายใต้การนำของทักษิณ ชินวัตร

          แม้คุณเจริญจะจากไป ก็แต่กาย แต่ใจเขา และวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเขา ยังอยู่กับเรา หวังว่าคุณจินตนาจะไม่โดนเคราะห์กรรมเช่นนั้น แต่ทั้งคุณจินตนาและตัวข้าพเจ้าก็ต้องทำใจไว้ว่า ความตายไม่ใช่สิ่งซึ่งจะทำให้เรากลัว ดังคุกตารางก็ไม่ใช่สถานที่ที่จะมีไว้ข่มขู่เราได้ แม้มันจะจับพวกเราไปเป็นพรวน ทรมานให้ไปขึ้นศาลอย่างเสียอะไรๆ ไปยิ่งนักก็ตามที คดีของข้าพเจ้า ซึ่งถูกจับที่เมืองกาญจน์ ก็ห้าปีเข้านี่แล้ว และยังคงยืดเยื้อต่อไป หากเราต้องเดินหน้า

          เดินหน้าเข้าหาความตาย ดังที่ไม่มีใครจักหลีกเลี่ยงพญามัจจุราชได้ เป็นแต่ว่าเราควรตายอย่างมีสติ ตายอย่างมีปัญญา ตายอย่างลดความเห็นแก่ตัวไปเรื่อยๆ เพื่อประโยชน์ของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย

          ข้าพเจ้าดีใจที่คุณภินันท์ โชติรสเศรณี มาอยู่ร่วมกับเราที่นี่ โดยที่คุณภินันท์นี้แลที่เริ่มมากับคุณบุญส่ง จันทร์ส่องรัศมี ทางกาญจนบุรี ซึ่งเกือบจะเป็นจุดแรกที่ก่อให้เกิดการคัดค้านขัดขวางการพัฒนาอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งปราศจากความชอบธรรม โดยไม่เคยมีการปรึกษาหารือกับชาวบ้านตาดำๆ ตั้งแต่สมัยการยุติเขื่อนแก่งกระจาน และการต่อต้านการนำเอากากนิวเคลียร์มาฝังไว้ในเขตทหาร ตั้งแต่สมัยที่ รสช. เรืองอำนาจด้วยความเป็นเผด็จการอันเลวร้าย และแล้วการคัดค้านขัดขวางดังที่ว่านี้ก็ได้แพร่ขยายออกไปเรื่อยๆ และที่น่าชมคุณภินันท์เป็นพิเศษ ก็ตรงที่เธอทำพินัยกรรมไว้แต่ตอนต่อสู้เรื่องท่อแก๊ซที่เมืองกาญจน์นั้นแล้วว่า เธอยกสรีระให้เป็นประโยชน์แก่คนรุ่นหลัง เธออุทิศตัวเพื่อช้าง เพื่อชนี เพื่อป่า เพื่อต้นน้ำลำธาร และเพื่อสิทธิเสรีภาพและศักดิ์ศรีของราษฎร ไม่แต่ที่ในเมืองไทย หากรวมไปถึงสหภาพพม่าด้วย

          คนอย่างคุณภินันท์ อย่างคุณจินตนา นี้แล ถือได้ว่าเป็นตัวแทนของความเปลี่ยนแปลงทางสังคมซึ่งสำคัญนัก หมดสมัยแล้วที่ผู้นำต้องมาจากคนที่อยู่เบื้องบน หรือจำเพาะผู้ชาย โดยที่คนพวกนั้นมักเดินตามกระแสหลัก ถูกมอมเมาให้คลั่งไปกับการพัฒนาและโลกาภิวัตน์ ซึ่งก็คือการกระพือไปในทางความโลภ โกรธ หลง ในทางอ้าขาผวาปีก ยกหูชูหาง อย่างใช้ความรุนแรงและเอารัดเอาเปรียบนานาประการ ทั้งนี้เพียงเพื่อประโยชน์ของคนข้างบนจำนวนน้อยเท่านั้น ทั้งยังมีการรับใช้บรรษัทข้ามชาติอีกด้วย ในขณะที่คนอย่างคุณภินันท์ คุณจินตนา รวมถึงคุณเจริญ และอดีตผู้นำในระดับรากหญ้าอีกไม่น้อย ต้องการวิถีทางอย่างที่ขัดกับโลกาภิวัตน์ ซึ่งจะนำไปสู่โลกาวิบัติ เขาเหล่านี้ต้องการศักดิ์ศรีของมนุษย์ ต้องการภูมิธรรมชาวบ้าน ต้องการวัฒนธรรมท้องถิ่น ต้องการพึ่งตนเอง ต้องการความเอื้อเฟื้อเพื่อแผ่แก่กันและกัน ตลอดจนถึงเพื่อนมนุษย์ทั้งหมดและสรรพสัตว์

          เหรียญที่มอบให้คุณจินตนาคราวนี้ เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญ เพราะนี่คือ เหรียญเจริญ วัดอักษร ซึ่งแสดงถึงอมตภาพของชื่อนี้ เราสามารถเอาเหรียญนี้มาเป็นพลัง ดังที่เมื่อมอบเหรียญทำนองนี้แด่สมาชิกของสมัชชาคนจนก่อนหน้านี้ นั่นเป็นเหรียญรูปสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญยิ่ง เพราะพระคุณท่านเป็นตัวแทนของอมตภาพแห่งความกล้าท้าทายอำนาจรัฐ แห่งความยืนหยัดอยู่ฝ่ายความถูกต้องดีงาม อย่างเห็นอกเห็นใจคนยากไร้ กล่าวคือสมเด็จโตไม่ใช่สัญลักษณ์แห่งความหวังในทางไสยศาสตร์ ดังที่มักมอมเมากันให้เข้าใจไปในทำนองนั้น ผิดกับอรหันต์ปลอมในบัดนี้ ที่อุดหนุนชนชั้นปกครองและรวบรวมเงินจากคนจนมาช่วยธนาคารกลาง โดยที่คนในธนาคารนั้นเองที่ทุจริตคิดมิชอบ ในขณะที่สมเด็จโตเป็นสัญลักษณ์ในทางคุณธรรม ที่อาจปลุกเร้าให้เรากล้าหาญขึ้นได้ในทางที่ถูกต้องดีงาม เฉกเช่นเหรียญเจริญ วัดอักษร นี้ก็คือสัญลักษณ์ที่เดินตามกระแสธรรม ตามรอยเท้าของเจ้าคุณสมเด็จองค์นั้นนั่นแล เพื่อพลิกผันโลกาวินาศให้ปลาสนาการไป จนบังเกิดเป็นความสว่าง อย่างสงบ และอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ในสังคมสยาม

          นอกไปจากนี้แล้ว เหรียญเจริญ วัดอักษร นี้ ยังเป็นการเชิดชูเกียรติชุมชนบ่อนอก–บ้านกรูด และทุกๆ ชุมชน ที่คัดค้านต่อต้านโลกาภิวัตน์กระแสหลัก โดยที่เหรียญนี้ออกมาจากหัวใจของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ซึ่งก็คือสัญลักษณ์แห่งความสว่าง เพื่อช่วยนำทางให้คุณจินตนาและกัลยาณมิตรของพวกเราทั้งหมดให้รวมพลังกันด้วยสามัคคีธรรม โดยมีอหิงสธรรมเป็นแกน เพื่อเอาชนะมารได้ด้วยธรรมคืออำนาจนั้นแล

          อนึ่ง ขอกล่าวไว้ด้วยว่าที่เรามามีกิจกรรมทางสังคมและการเมืองในวัด นอกเหนือพิธีกรรมทางศาสนานั้น ชื่อว่าเป็นการอุดหนุนให้วัดมีชีวิตชีวา ดังที่วัดนี้เป็นมาโดยตลอด หากวัดในเมืองกรุงแทบหมดบทบาทไปแล้วกับชุมชน เพียงรับใช้คนรวยและคนมีอำนาจในทางส่วนตัวแทบทั้งนั้น หาไม่ก็ประกอบแต่ศาสนพิธีที่เป็นไปในทางพุทธพาณิชย์เสียแหละโดยมาก หากเราช่วยกันผลักดันให้วัดเป็นศูนย์ในทางธรรม และร่วมกันเอาธรรมมาเป็นอำนาจ ประชาราษฎรจะได้เป็นใหญ่อย่างแท้จริง

          ท้ายที่สุดนี้ ก็ขอชมเชยคุณกระรอก ศรีภรรยาของคุณเจริญ ซึ่งยืนหยัดเคียงคู่กับสามีตลอดมา ทั้งยังรับการจากไปของคุณเจริญได้อย่างรู้เท่าทัน รู้จักทำใจไว้ด้วยการเจริญสติ โดยที่มีคู่ชีวิตกับผู้ที่ถูกสังหารอีกมากหลายที่มาร่วมงานวันนี้ ท่านเหล่านี้แลคือพลังเบื้องหลังในทางการต่อสู้ที่สำคัญยิ่งนัก โดยที่วันนี้จะถือได้ว่าเป็นวันชุมนุมนักต่อสู้ที่มาจากสารทิศเอาเลยก็ว่าได้ ถ้าเรารวมพลังของนักต่อสู้ต่างๆ เข้าด้วยกัน ตั้งใจมั่นที่จะเอาชนะอธรรมอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีศิลปินมาให้กำลังใจอย่างน่านิยมชมชื่น มีนักวิชาการนอกระบบที่สำคัญๆ เดินทางมาจากไกลๆ รวมทั้งเพื่อนชาวต่างประเทศอีกด้วย

          เป็นอันว่าก้าวต่อไปของเรา ที่ทรงไว้ซึ่งพลัง จะเป็นไปอย่างทรงเกียรติ จะท้าทายระบบการพัฒนาอันบ้าคลั่ง ซึ่งมีรัฐบาลทักษิณและลูกสมุนของเขาเป็นตัวแทน โดยเราต้องเอาชนะทักษิณและสัญลักษณ์ของมารให้จงได้ เพื่อธรรมะจะได้เป็นใหญ่ อย่างยุติธรรมและอย่างสันติ....

หน้าแรก | กลุ่มเสขิยธรรม | ความเคลื่อนไหว | ประเด็นร้อน | ศาสนธรรมกับชีวิตและสังคม
นักบวชกับสังคมร่วมสมัย |> จดหมายข่าวเสขิยธรรม | รวมเว็บน่าสนใจ | แผนผังไซต์
เสขิยธรรม https://skyd.org
สมุดเยี่ยม | แนะนำหน้านี้ให้เพื่อน

กลุ่มเสขิยธรรม ๑๒๔ ซอยวัดนพคุณ ถนนสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กรุงเทพฯ ๑๐๖๐๐
โทร. ๐๒-๘๖๓๑๑๑๘, ๐๖-๗๕๗๕๑๕๖ โทรสาร ๐๒-๔๓๗๙๔๔๕
... e-mail :