เสขิยธรรม -
นักบวชกับสังคมร่วมสมัย
หน้าแรก | สมุดเยี่ยม | แนะนำหน้านี้ให้เพื่อน | แผนผังไซต์
สรุปปาฐกถาขององค์ทะไลลามะ เรื่อง
มนุษย์ต่อสันติภาพโลก
(Ein menschlicher Beitrag zum Weltfrieden)
เมื่อวันที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๖

พระมหาวิเชียร วชิรปัญโญ แปลและเรียบเรียง
Wat Thai e.V. Bad Duerkheimer Str. 14, 81539 Muenchen
Tel.: 089 - 68019227 Fax: 089 - 68019228
(ป.ร. ย่อจาก ผู้แปลและผู้เรียบเรียง)

ตัดทอนจาก "เสียงจากวัดไทย"
ชาวไทย ฉบับที่ ๑๒๑ ประจำเดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖

 

          วันนี้ ข้าพเจ้าดีใจมาก ที่ได้มาบรรยายที่นี่ ได้มาอยู่ กับทุกท่านที่นี่ โดยเฉพาะ การได้พบกับ ศาสตราจารย์ ไวเซเกอร์ (Professor Carl Friedrich von Waizsaeker นักฟิสิกซ์ และนักปรัชญา -ป.ร.) ซึ่งเป็น อาจารย์วิทยาศาสตร์ สอนวิชาควันตัมฟิสิกซ์ เมื่อข้าพเจ้า มีโอกาส พยายามที่จะเรียนรู้ จากเพื่อน นักวิทยาศาสตร์ ทั้งหลายเสมอ เมื่อเขาบรรยายเกี่ยวกับ วิทยาศาสตร์ ข้าพเจ้า ก็เข้าใจดี แต่ก็ลืมหมด เมื่อเขา บรรยายจบ ข้าพเจ้า จึงมักเรียกตัวเองว่าเป็น "นักเรียนที่ไม่มีความหวัง ในการเรียนรู้" และข้าพเจ้า ก็ดีใจ ที่ได้พบกับเพื่อน อีกคนหนึ่งคือ คุณเอียโพต เวเกอร์ (Frau Irpot Weger อาจสะกดชื่อผิด -ป.ร.) ผู้ทำงาน เสียสละ ช่วยเหลือ ชาวทิเบตผู้ลี้ภัย อยู่ในต่างประเทศ ได้มากกว่า ๕ พันคน ข้าพเจ้าได้ไปเยี่ยม คุณเอียโพต ที่ทำงาน และที่อพาร์ทเมนต์ ๒ ห้องเล็ก ๆ ของเธอ ที่กีซิ่ง (ตำบลหนึ่งในเมืองมิวนิค -ป.ร.) ที่อยู่ของเธอ ดูไม่ค่อยเรียบร้อยนัก แต่ก็แสดง ให้เห็นถึงความเอื้ออาทร และความตั้งใจ ของเธอในการทำงาน ช่วยเหลือ ชาวทิเบต อย่างจริงจัง

          เมื่อคนเราแก่ตัวลง มักจะนึกถึงชีวิต และบทบาทต่าง ๆ ของเราในอดีต เช่น การเป็นนักเรียน นักศึกษา การทำงาน ทุกท่านคงจะมี ธุระยุ่งมาก แต่ก็ยังสละเวลา มาฟังการบรรยาย ในวันนี้ ข้าพเจ้ามองเห็นว่าท่านจะ พากันผิดหวัง ในการมาฟังครั้งนี้ ที่คาดหวังว่า จะได้ฟังการบรรยาย เฉพาะเรื่องใดเรื่องหนึ่ง และยิ่งจะผิดหวัง มาก สำหรับผู้ที่คาดว่า องค์ดาไลลามะ เป็นผู้อยู่เหนือมนุษย์ มีพลังเวทมนตร์ ในการรักษา ผู้อื่น ฯลฯ ข้าพเจ้า ไม่มีอะไร มามอบให้ท่าน ในวันนี้ นอกจาก การพูดคุยกัน ธรรมดา ข้าพเจ้า เป็นเพียง พระสงฆ์ธรรมดา ถ้าใครในที่นี้ มีพลังเวทมนตร์ ในการรักษาผู้อื่น ก็ขอให้มารักษา หลอดเสียงของข้าพเจ้าด้วย (ขณะบรรยาย เรื่องนี้ พระองค์กำลังประชวร ด้วยไข้หวัด และหลอดเสียงอักเสบ -ป.ร.)

          ข้าพเจ้าคิดว่า หลักการทาง พุทธศาสนาที่ว่า "ทุกคนเป็นอาจารย์ของตนเอง" นั้นถูกต้อง บางครั้งเรา พึ่งพา สิ่งรอบตัว มากเกินไป และบางครั้ง ทุกอย่างก็ไม่เป็นไป อย่างที่เราต้องการ เราก็หงุดหงิด ไม่พอใจ ข้าพเจ้า ขอให้ท่าน เพิ่มความมั่นใจ ในตนเอง ให้มากขึ้น ให้พึ่งพาตนเอง มากขึ้น และหากมีอะไรเกิดขึ้น ก็ไม่ควรโทษ ผู้อื่น เพราะมันยิ่งสร้าง ปัญหาให้มากขึ้น เราทุกคน เป็นมนุษย์ มีศักยภาพ มีความสามารถ ทางสมอง เหมือนกัน เราเพิ่มศักยภาพ ส่วนนี้ ได้ถ้าเรามีเมตตา และยึดหลัก การเห็นแก่ประโยชน์ ของผู้อื่น เป็นที่ตั้ง สมองประกอบ กับอารมณ์ ก็จะทำให้ชีวิต ของเราสว่างสดใส ขึ้น มีความเป็นคน มากขึ้น ลดความกลัว และความไม่แน่ใจต่าง ๆ ลงได้ ทำให้ เรามองเห็น ทุกสิ่งทุกอย่าง ตามที่มันเป็นจริง เราก็จะสามารถ แก้ปัญหาได้ตรงจุดยิ่งขึ้น บางครั้งปัญหา ของเราเล็กนิดเดียว แต่สมองของเรา ถูกรบกวน มีอคติ เราจึงมองเห็น ปัญหาเป็นเรื่องใหญ่ การมั่นใจในตนเอง จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก สมองช่วยวิเคราะห์ปัญหา ทำให้เรามองเห็น ความโกรธ ความอิจฉาในตัวเราเอง เราก็สามารถ นำพลังภายใน มาแก้ปัญหาได้ อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และยังช่วยเพิ่ม พลังภายใน ให้มากขึ้นด้วย เมื่อเราประสบ กับปัญหา บางครั้ง เราโกรธ มีอคติ ความโกรธ และอคต ิมีแต่จะทำให้สถานการณ์ แย่ลง พลังภายใน ก็จะถูกกดทับ ไม่สามารถนำมา ให้งานได้ดี ปัญหา ก็จะก่อตัวมากขึ้น และยังอาจทำให้ ปัญหาอื่น ๆ เกิดขึ้น ตามมาได้ เช่น นอนไม่หลับ กระเพาะอาหารไม่ย่อย สิ่งเหล่านี้ ทำลายตัวเรา ลูกหลานของเรา บุคคลรอบข้างเรา แม้แต่สัตว์เลี้ยง ก็ยังได้รับผลกระทบ จากความไม่สงบ ในตัวเรา ขอให้มี ความสงบในใจ เพราะมนุษย์เรา มีเมล็ดพันธุ์แห่ง ความเมตตา อยู่ในตัวอยู่แล้ว ขอให้มองปัญหา และปฏิบัติต่อมัน ให้ถูกต้อง ปัญหาที่จริงแล้ว ไม่อันตราย และไม่สามารถ ทำลายเราได้ อารมณ์ของเรา ต่างหาก ที่อันตราย และเป็นตัวทำลายเราเอง ทำลายชีวิต ที่ดีของเรา ทำลายอนาคตของเรา จงรักตัวเองก่อน รักครอบครัว และผู้อยู่รอบตัวเรา หลังจาก ที่ทำได้ ก็พยายาม เพิ่มคุณภาพของจิต ให้มากขึ้น โดยการให้ความรัก กับศัตรู และสิ่งมีชีวิต ทั้งหลาย ข้อดี ของการให้ความรัก และเมตตา ผู้อื่น จะกลับเข้ามาตอบแทน ตัวเราเองก่อน เป็นคนแรก โดยมันจะทำให ้เรามีความสงบ ในใจมากขึ้น มีผลทำให้ สิ่งแวดล้อม รอบตัวดีขึ้น ไปด้วย ด้วยประสบการณ์ส่วนตัว ของข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าฝึก ปฏิบัติ โดยการยิ้ม ให้กับผู้อื่นก่อน แม้กระทั่ง คนที่ผ่านไปมา บนถนน ซึ่งคนส่วนใหญ่ มักจะยิ้มตอบ แต่ก็มีบางคน ที่อาจสงสัย และระแวง คิดว่าข้าพเจ้า ทำไมยิ้มให้เขา ทำให้รู้สึกไม่ไว้ใจเลย การยิ้มของข้าพเจ้า ก็อาจไป รบกวนจิตใจเขา ข้าพเจ้า ก็ไม่คิดอะไรมาก เพราะข้าพเจ้า มีอิสรภาพ ที่จะให้ความเมตตานี้ กับผู้อื่น ข้าพเจ้าพยายาม ทำอย่างนี้ต่อไป ส่วนที่ว่า เขาจะได้เรียนรู้ หลักความเมตตานี้หรือไม่ หรือจะมีจิตใจ ที่สงบลง หรือไม่นั้น มันก็เป็นหน้าที่ ของเขาเอง ที่จะลบอคติในใจตนลง และเพิ่มความสงบในใจ แห่งตนต่อไป ข้าพเจ้ารู้สึก มีความสงบใจ มากขึ้น และห่วงใย ผู้อื่นมากขึ้น ข้าพเจ้าปฏิบัติอย่างนี้ มากว่า ๑๐ ปีแล้ว และก็จะปฏิบัติต่อไป

          คนเรา มักจะศึกษา และวิเคราะห์ว่า อะไรดีต่อเรา หรืออะไรเป็นโทษต่อเรา ทั้งนี้ เราควรจะพิจารณา ในเรื่องของอารมณ์ ของเราด้วย เพราะอารมณ์มีหลายชนิด บางชนิด ก็เป็นประโยชน์ บางชนิด ก็เป็นพิษต่อเราเอง มนุษย์เรา อยู่ในโลกแห่งอารมณ์ จงค้นหาว่า อารมณ์ไหน เป็นประโยชน์ ขอให้เราพยายาม เพิ่มอารมณ์ ที่เป็นประโยชน์ และลดอารมณ์ที่เป็นโทษลง มีการศึกษา ทางการแพทย์มากมาย เกี่ยวกับ ประโยชน์ของอารมณ์ ที่มีต่อตัวเรา เช่น ผลของอารมณ์ ที่ช่วย แก้ปัญหาสุขภาพได้ ผลของอารมณ์ ชนิดต่าง ๆ ต่อการ ทำงานของสมอง

          จิตที่มีเมตตานั้น มีประโยชน์มาก เมื่อประกอบ กับการใช้สมองมา ช่วยวิเคราะห์ปัญหา มันจะทำให้เรา มีสติมากขึ้น มองเห็น ความสอดคล้องกัน ของสิ่งต่าง ๆ ทำให้ เกิดความมั่นใจในตัวเอง มากขึ้น เกิดความเมตตามากขึ้น จิตที่มีสติ มีผลต่ออารมณ์มาก เพราะเป็นจิตที่ ถูกฝึกฝนดีแล้ว ไม่ว่าจะ ใช้อุบายใด ในการฝึกฝนจิต เช่น ทางการแพทย์ ทางวิทยาศาสตร์ หรือแม้แต่ การนั่งสมาธิ ทางพุทธศาสนา ก็ถือว่าเป็นการฝึกฝนสติ และเมื่อเรารู้ถึง ความลับของอารมณ์นี้แล้ว และได้ใช้สมอง วิเคราะห์ปัญหาอย่างเป็นจริงแล้ว เราก็จะสามารถ แก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ดีขึ้น จิตที่ไม่เห็นแก่ตัว เห็นแก่ประโยชน์ ของผู้อื่นเป็นที่ตั้ง เป็นจิตที่มีคุณภาพ เป็นจิตที่ไม่มีขอบเขต และข้อจำกัด เรื่องเชื้อชาติ ศาสนา และเรื่องอื่น ๆ

          ปัจจุบันไม่มีเรื่องใด ที่เป็นเรื่องความสนใจ ของบุคคลคนเดียวอีกต่อไป แต่เป็นเรื่อง ที่เป็นที่สนใจ ของทุกคน เกี่ยวข้อง กับทุกคนทั้งโลก เช่น ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาการเมือง เศรษฐกิจ โลกของทุกคน ถูกเชื่อมต่อกัน ไม่ว่าเรื่องใด ก็เป็นส่วนหนึ่ง ในชีวิตของเรา หลักการ ทางสงคราม ที่ว่า การทำลายศัตรู คือชัยชนะนั้น ผิดอย่างมาก เพราะการทำลาย ผู้อื่นคือการทำลาย ตัวเราเอง ทุกสิ่งทุกอย่าง ในโลกนี้ ต้องพึ่งพา อาศัยซึ่งกันและกัน มันเป็นไม่ได้ ที่เราจะอยู่ในโลกนี้ ร่วมกับผู้อื่น โดยไม่ขัดแย้งกัน แต่ก็ขอให้ มองสิ่งต่าง ๆ อย่างเป็นจริง ให้มากขึ้น ไม่เห็นแก่ตัว เห็นแก่ประโยชน์ ของผู้อื่น หวังดีต่อกัน ใช้สมองร่วมกัน แก้ปัญหา อย่างจริงจัง ประนีประนอมกัน สงคราม และการทำลายล้าง ก็จะลดลง ทุกอย่างในโลกนี้ เป็นส่วนหนึ่ง ของชีวิตเรา ไม่ว่าจะเป็น ความทุกข์ โรคภัย ความตาย บางครั้งสิ่งที่ผิด ธรรมดา ที่เราไม่คุ้นเคย ก็อาจเกิดขึ้นได้ เป็นไปตามหลักธรรมชาติ ครั้งหนึ่ง เมื่อข้าพเจ้า มีปัญหาสุขภาพ อย่างมาก มันรบกวน ข้าพเจ้ามาก มันเจ็บปวดมากในตอนแรก และเมื่อข้าพเจ้า ไปประเทศอินเดีย และมองเห็นผู้อื่น มีความทุกข์ยาก แร้นแค้น เห็นเด็ก ที่เป็นโรคโปลิโอ ไม่มีใครสนใจ คนเหล่านี้ มันก็สะท้อน เข้ามาในใจ ของข้าพเจ้า ทำให้มองเห็น ปัญหาสุขภาพ ของข้าพเจ้า เป็นเรื่องเล็กน้อย ช่วยลดความเจ็บปวด ของข้าพเจ้าไป ซึ่งมีประโยชน์ ต่อข้าพเจ้ามาก

          มีคนถามข้าพเจ้าว่า มีเคล็ดลับอะไร ถึงมีความสุข มีสุขภาพจิตที่ดี ทั้งที่ข้าพเจ้า มีปัญหามากมาย ข้าพเจ้าก็ตอบว่า ไม่มีเคล็ดลับอะไรเลย เพียงแต่กินอาหารที่ดี นอนหลับสบาย ก็เท่านั้นเอง บางครั้งข้าพเจ้า ก็ตอบให้ ขำขันกันว่า ไม่บอก เพราะมันเป็นความลับ ของข้าพเจ้า จริง ๆ แล้วหลักสำคัญ คือการมีความเมตตาในใจ เพราะความเมตตา ทำให้เรามีสันติภาพภายใน มีชาวทิเบต มากมายที่ดำรงชีวิต ได้อย่างมีความสุข และสงบ ทั้งที่มี ปัญหามากมาย แต่ก็ไม่ยอมแพ้ ความเมตตา เป็นวิถีหลัก แห่งการดำเนินชีวิต ของชาวทิเบต ทางโลกตะวันตก มีเครื่องอำนวย ความสะดวกมากมาย มันทำให้จิตใจเรา ไม่สงบ คุณภาพของจิตใจ จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ

          ข้าพเจ้าอยากย้ำ ให้ทุกท่าน มองเห็นว่า "เราทุกคน มีความสามารถ มีสมอง มีศักยภาพ ที่จะเป็นมนุษย์ ที่มีคุณภาพได้" ปัจจุบัน การศึกษาเน้นเพียง แค่การพัฒนาสมอง แต่ไม่เน้น การพัฒนาจิตใจ ดังนั้น โลกจึงเกิดปัญหาขึ้นมากมาย เพราะสมองถูกใช้ ไปในทางที่ผิด สร้างแต่ประโยชน์ ส่วนตัว คนไม่มี ศีลธรรมในใจ เมื่อเรา ยังเป็นเด็กจิตใจ ของเราสะอาด สดชื่น ซื่อสัตย์ แต่แล้วสมอง ที่ปราศจากศีลธรรม ก็ถูกนำไปใช้ ในทางที่ผิด ทำให้เราคดโกง เห็นแก่ตัวมากขึ้น มนุษย์เรา เท่านั้น ที่เป็นสิ่งมีชีวิต ที่สร้างปัญหา ให้กับโลก และตัวเราเอง สัตว์ไม่เคยสร้าง ปัญหาเหล่านี้ให้โลกเลย

          ต่อคำถามที่ว่า "องค์ทะไล ลามะ เชื่อหรือไม่ว่า ดนตรีสามารถ ทำให้ลดการใช้อาวุธลงได้" พระองค์ทรงตอบว่า แน่นอน และไม่ใช่เพียงแค่ดนตรีเท่านั้น ที่จะนำความสงบ มาสู่จิตใจคน แต่ยังมี การวาดรูป ศิลปะ และสิ่งอื่น ๆ อีกมากมาย ที่เราสามารถ นำมากล่อมเกลา จิตใจให้อ่อนโยน ลงได้ เพียงแต่เรา ต้องมีภาพเป้าหมาย ในใจที่ชัดเจนร่วมกัน จะใช้วิธีไหน มาเป็นอุบาย ขัดเกลาจิตใจ ก็ได้เหมือนกัน .. .

(ป.ร. ย่อจาก ผู้แปลและผู้เรียบเรียง)


หมายเหตุ การแสดงปาฐกถาครั้งนี้ บริษัทคัลเจอร์ไลฟ์ จัดขึ้นที่ โรงกีฬาโอลิมเปียฮัลเล่ เมืองมิวนิค มีผู้เข้าฟังประมาณ ๑๑,๐๐๐ คน แสดงเป็นภาษาอังกฤษ มีล่ามแปล เป็นภาษาเยอรมัน คณะของเรา ประมาณ ๑๒ คน ได้เข้าฟัง ด้วยและคุณสรินยา ชวินท์ โรห์ไมเออร์ (คุณก้อย) นักสังคมสงเคราะห์ด้านจิตวิทยา ได้ช่วยบันทึก คำบรรยาย แปลเป็นภาษาไทย และพิมพ์ให้ ข้าพเจ้าได้เรียบเรียง อีกครั้งหนึ่ง เพื่อจัดพิมพ ์เผยแผ่ในหนังสือ ชาวไทย ให้ผู้สนใจ ได้เรียนรู้ด้วย แม้มิได้เข้าฟัง ด้วยตัวเอง หากมีข้อความ หรือคำที่ ไม่ตรง ตามคำบรรยายที่แท้จริง ผู้แปลและผู้เรียบเรียง ขอขมาโทษ ต่อองค์ทะไลลามะ ผู้บรรยาย ณ ที่นี้
หน้าแรก | กลุ่มเสขิยธรรม | ความเคลื่อนไหว | ประเด็นร้อน | ศาสนธรรมกับชีวิตและสังคม
> นักบวชกับสังคมร่วมสมัย | จดหมายข่าวเสขิยธรรม | รวมเว็บน่าสนใจ | แผนผังไซต์
เสขิยธรรม skyd.org
สมุดเยี่ยม | แนะนำหน้านี้ให้เพื่อน

กลุ่มเสขิยธรรม ภายใต้มูลนิธิเมตตาธรรมรักษ์ ๑๔/๖๓ หมู่บ้านสวยริมธาร ๒ ซอย ๕
ถนนทวีวัฒนา-กาญจนาภิเษก แขวง/เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ ๑๐๑๗๐
โทร. ๐๒-๘๐๐-๖๕๒๖ ถึง ๘, ๐๖-๗๕๗-๕๑๕๖ โทรสาร ๐๒-๘๐๐-๖๕๔๙
... e-mail :