เสขิยธรรม
ศาสนธรรมกับชีวิตและสังคม
-
หน้าแรก | สมุดเยี่ยม | แนะนำหน้านี้ให้เพื่อน | แผนผังไซต์

วัตถุแห่งความรุนแรง

โดย พระกิตติศักดิ์ กิตฺติโสภโณ
เครือข่ายชาวพุทธเพื่อพระพุทธศาสนาและสังคมไทย(คพส.)
www.budnet.info

หาก "..เด็กหนุ่มแววตาแข็งกร้าวที่กำลังส่ายปากกระบอกปืนในมือไปมา พลางตวาดด่าทออยู่ท่ามกลางเพื่อนนักเรียน ซึ่งบางคนเป็นคู่แค้น หรือเคยวิวาทกันมาก่อน.." เป็น "ใครก็ไม่รู้" หรือเพียง "ฉากหนึ่ง" ในภาพยนต์ หลายคนอาจตื่นเต้นไปกับเนื้อข่าว ภาพและเสียง ตลอดจนเรื่องราวต่าง ๆ ว่าถึงที่สุดแล้วจะ "ลงเอย" กันอย่างไร

          และ… หากภาพ "..เด็กสาววัยกระเตาะที่กำลังเริงรักกับชายแปลกหน้าอย่างถึงพริกถึงขิง.." เป็นเพียงภาพยนต์เรตเอ็กซ์ หรือวิดีโอแอบถ่าย หลายคนที่ใจใฝ่ในกามคุณก็อาจออกอาการกระเหี้ยนกระหือรืออยากมีส่วนร่วม ด้วยกำหนัดและราคะอันปะทุโชน

          แต่… หากผู้ที่ถูกกล่าวถึงข้างต้น คือบุตรหลานคนใดคนหนึ่ง หลายคนคงต้องตื่นตระหนก ตกใจ และเสียใจในสิ่งที่เกิดขึ้น

          ทั้งมิอาจนับว่าเป็น "ความบันเทิง" ได้อีกต่อไป

          บางคนอาจถึงกับเกรี้ยวกราด ตีอกชกหัว หรือระทมขมขื่นต่อชะตากรรมที่ตนต้องเกี่ยวข้อง ทั้งที่มิเคยปรารถนาจะพานพบ…

          ดูเหมือนกับว่า นี่คือความแปลกแยก และลดทอนความเป็นมนุษย์ระหว่างกันและกัน กระทั่งเหลือเพียง "ญาติ" และ "มิตร" เท่านั้น จึงจะควรค่าแก่ความห่วงใยหรือเมตตาอาทร

          ใช่หรือไม่ว่า วันนี้ "ความสัมพันธ์" คล้ายจะกร่อนลง เหลือเพียง "ความเกี่ยวพัน" ระหว่าง "เรา" และ "…ของเรา" อันคับแคบ ด้วยข้อจำกัดแห่งผลประโยชน์

พุทธศาสนา ถือว่าสิ่งทั้งหลายมีส่วนร่วม พึ่งพิง อิงอาศัย ซึ่ง "กันและกัน" ด้วยกฎแห่ง "อิทัปปัจจยตา" ที่ว่า "เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี, เพราะสิ่งนี้เกิดขึ้น สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น;เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้ก็ไม่มี, เพราะสิ่งนี้ดับ สิ่งนี้ก็ดับ"

          ดังนั้น เรื่องที่กล่าวมาข้างต้นจึงมิใช่ปรากฏการณ์อันไร้มูลเหตุ และปราศจากที่มาที่ไป ขณะเดียวกัน ก็มิใช่ความเกี่ยวข้อง "เท่าที่จำเป็น" ดังที่วัฒนธรรมโลกาภิวัตน์พยายามสรุปลดทอน

          ด้านหนึ่ง เราช่วยกันทำลายสังคมเกษตรกรรมและวิถีชุมชนชนบทจนแตกสลาย ขับไล่แรงงานจำนวนมากออกมารับใช้การผลิตแบบอุตสาหกรรม

          ด้านหนึ่ง เรามุ่งสร้างและขยายสังคมเมือง ตลอดจนผลิตชนชั้นกลางผู้ไร้ราก อย่างปราศจากขอบเขต และกลไกทางสังคมที่เข้มแข็งรองรับ

          ด้านหนึ่งเราเปลี่ยนวิถีการผลิตแบบยั่งยืนอันอิงแอบแนบชิดธรรมชาติ และภูมิปัญญาดั้งเดิมในท้องถิ่น มาเป็นการผลิตชนิดเอาอย่าง เลียนแบบ และทำเทียม ตามก้นประเทศอุตสาหกรรมผู้ล่วงหน้าไปก่อน ทั้งยังกำเริบเสิบสาน ทำลายและทำร้ายธรรมชาติอย่างไม่ไว้หน้า

          ขณะที่อีกด้านหนึ่ง เรากระตุ้นเร้าให้สมาชิกในสังคม เปลี่ยนจากการพึ่งตนเองเยี่ยงผู้มีศาสนาไปเป็น "ผู้เสพ - บริโภค" อย่างไม่ลืมหูลืมตา ปราศจากปัญญา และสติยั้งคิด…

จะว่าไปแล้ว เราคล้ายจะ "ลดทอน รูป - นาม" ของสังคม จนหลือเพียง "วัตถุดิบ" กับ "การผลิต" และ "การบริโภค" โดยมี "เงินตรา" เป็นมาตรวัด แทนที่ "ศาสนธรรม" และ "คุณธรรม" อันเคยมี

          แต่แล้ว ขณะที่พากันลดทอน "ผู้อื่น" ลงเสมอเป็น "วัตถุ", เป็น "เครื่องมือในการผลิต" และเป็น "ผู้บริโภค" เวลาเดียวกัน ใช่หรือไม่ว่า "เรา" ต่างก็กำลังถูก "ลดทอน" ให้ต้องเป็นเช่นนั้นไปด้วย เพราะขณะที่มุ่ง "กระทำ" ต่อผู้อื่น สิ่งที่ผู้อื่น "เป็น" ก็ส่งผลกระทบต่อเรา หรือกระทำต่อเราไปพร้อมกัน

ในนามของเครื่องจักรการผลิตและบริโภคเพื่อกำไรสูงสุด วันนี้เราลดทอนความเป็นมนุษย์ระหว่างกัน พร้อม ๆ ไปกับการให้กำเนิด "เครื่องมือแห่งความรุนแรง" ออกมา "กระทำและถูกกระทำ" นานาชนิด

          …เรามีวงศาคณาญาติ ตลอดจนคนใกล้ชิดที่สามารถประทุษร้ายทางเพศต่อกัน มีเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ชาญฉลาดในการหาช่องทางฉ้อฉล หรือใช้อำนาจในทางมิชอบ มีนักการเมืองที่พร้อมจะแสวงหาประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม เพื่อตนเองและพวกพ้อง เรามีสื่อมวลชนที่พร้อมจะทำธุรกิจมากกว่าการเป็นปากและเสียงของผู้ด้อยโอกาส มีนักธุรกิจที่พร้อมจะปล้นชิงลูกค้า เช่นเดียวกับที่เรามีนักบวชทุศีล ผู้ไม่เกรงกลัวต่อบาป และไม่อนาทรต่อศาสนธรรม ฯลฯ ตลอดจนมีประชาชนที่พร้อมจะเอารัดเอาเปรียบ และเหยียบย่ำกันเองอย่างไม่อินังขังขอบ…

ในวัฏสงสารแห่งการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป เราทั้งหลายจึงคล้าย "ไก่ร่วมเข่ง-สุนัขร่วมกรง" ที่มัว "จิกตี - ขย้ำกัด" กันและกัน อย่างไม่เงยหน้าอ้าปาก หลงลืมไปว่าบาดแผลและซากศพตามรายทางนั้น วันหนึ่งจะกลายเป็น "เนื้อดิน" และ "อาหาร" อันอุดม สำหรับเพาะเลี้ยง "ความรุนแรงที่ยิ่งขึ้นไปกว่า"

          วันนี้…บุตรหลานของเรา ผู้เป็น "ผลิตผล" ของเราเอง บ้างหันอาวุธเข้าทำร้ายและเข่นฆ่าพวกเรา บ้างกระทำต่อกันและกันราวไม่มีมโนธรรมสำนึก

          ต่างตกเป็น "เหยื่อ" แห่งการ "กระทำและถูกกระทำ" ราวงูที่กัดกินหางตนเอง…

          นี่พอจะบอกได้บ้างไหมว่า บัดนี้…เรามิใช่เพียงพร่าผลาญอดีตและปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังร่วมกันสร้างเหตุปัจจัยเพื่อเหยียบย่ำทำลายวันพรุ่งนี้ไปเสียด้วยแล้ว.. .

หน้าแรก | กลุ่มเสขิยธรรม | ความเคลื่อนไหว | ประเด็นร้อน | > ศาสนธรรมกับชีวิตและสังคม
นักบวชกับสังคมร่วมสมัย | จดหมายข่าวเสขิยธรรม | รวมเว็บน่าสนใจ | แผนผังไซต์
เสขิยธรรม https://skyd.org
สมุดเยี่ยม | แนะนำหน้านี้ให้เพื่อน

กลุ่มเสขิยธรรม ๑๒๔ ซอยวัดนพคุณ ถนนสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กรุงเทพฯ ๑๐๖๐๐
โทร. ๐๒-๘๖๓๑๑๑๘, ๐๖-๗๕๗๕๑๕๖ โทรสาร ๐๒-๔๓๗๙๔๔๕
... e-mail :