ในยามสงคราม สื่อมวลชนอาจจะนำเสนอภาพเหตุการณ์ที่ทำให้เราเกิดความเกลียดชังฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือ ทำให้เรารู้สึกสนุกสนานกับการทำสงครามประหัตประหารเพื่อนมนุษย์โดยไม่รู้ตัว ดังนั้นในขณะที่ท่านชมสื่อ ขอให้ท่านหายใจลึก ๆ พร้อมกับพิจารณาตามคำแนะนำดังต่อไปนี้ เพื่อสันติภาพจะบังเกิดขึ้นภายในดวงใจของท่าน

          ๑. เมื่อมองเห็นภาพทหารของทั้งสองฝ่าย ให้มองทหารแต่ละคนด้วยความรู้สึก ของมารดาผู้มีความเป็นห่วงเป็นใยลูกชายของตนที่ต้องเข้าร่วมรบสงคราม (เห็นใบหน้าของทหารคนนั้นเป็นใบหน้าบุตรชายของเรา)

          ๒. ขณะที่มองเห็นภาพอาวุธแสนยานุภาพต่าง ๆ กำลังสำแดงเดช ให้คิดว่า เบื้องหลังของการรบพุ่งที่ตื่นตาตื่นใจ ความเป็นจริงคือ หลายๆ ชีวิต ต้องล้มหายตายจาก ท่ามกลางเสียงรำไห้รำพัน ด้วยความเศร้าโศก เสียใจของบิดามารดาภรรยา และ บุตรอันเป็นที่รัก

          ๓. ขณะที่ท่านเห็นภาพผู้นำของทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นจอร์จ ดับเบิลยู. บุช หรือ ซัดดัม ฮุสเซ็น จงอย่าให้ความเกลียดชังฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเข้ามาครอบงำจิตใจของท่าน แต่ให้มองด้วยสายตาแห่งความเข้าใจ เห็นอกเห็นใจ พยายามมองลึกเข้าไปถึงความคิด ความเชื่อ ของทั้งสองฝ่าย และ มองให้เห็นเหตุปัจจัยหลาย ๆ ด้านที่ก่อให้เกิดสงครามครั้งนี้

          ๔.มองชาวโลกทั้งมวลด้วยความความห่วงใยว่า ในขณะนี้พวกเราทั้งหลายล้วนกำลังตกอยู่ในภาวะสงคราม คือ สงครามแห่งการแข่งขันแย่งชิงสงครามธุรกิจ อันเป็นต้นตอของสงครามที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ มองให้เห็นว่าตราบใดที่ระบบเศรษฐกิจโลกแบบแย่งชิงแข่งขันนี้ยังเป็นใหญ่ในโลก ตราบนั้นสันติภาพย่อมไม่มีทางบังเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

          สุดท้ายให้ภาวนาว่า ขอให้ตัวเรา และ เพื่อนร่วมชาติ ตลอดจนทุกชาติ ทุกภาษาพร้อมใจกันหันมาดำเนินชีวิตอย่างพอเพียง พออยู่พอกิน พึ่งตนเองได้ทางปัจจัยสี่ ไม่ตกเป็นทาสวัตถุ หรือ สิ่งปรนเปรอทางกาย (กามคุณ ๕) เพื่อโลกของเราก็จะปราศจากสภาวะสงครามอย่างสิ้นเชิง (เพราะไม่มีการแย่งชิง) และ กลายเป็นโลกแห่งสันติภาพตลอดไป

          ขอให้โลกของเราจงเป็นโลกแห่งสันติภาพ โลกแห่งการเอื้ออาทร โดยเร็ววันด้วยเทอญ ..

ด้วยความปรารถนาสันติภาพ

www.budpage.com