เสขิยธรรม -
ประเด็นร้อน
หน้าแรก | สมุดเยี่ยม | แนะนำหน้านี้ให้เพื่อน | แผนผังไซต์

สำนักราชเลขาฯ ส่งคืนรัฐบาล พ.ร.บ.ครูมีปัญหา
รมช.ศธ.-วิป."รับบกพร่อง"

ผิดถ้อยคำ-ตัดบัญชีเงินเดือน หลายองค์กรถวายฎีกาในหลวง แนะ ๒ สภาปล่อยตก-ปชป.ชี้ดื้อ

มติชนรายวัน ฉบับวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๖ ปีที่ ๒๖ ฉบับที่ ๙๓๙๒ หน้า ๑

          สำนักราชเลขาฯ ส่งคืนร่าง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูฯ "สิริกร" ยอมรับมีความผิดพลาดในทางธุรการมาก เป็นอุทาหรณ์ต้องแก้ไข เตรียมนำ กม.ฉบับเดิมใช้ไปก่อนโดยร่างกฎ ก.ค.เพิ่มเติมรองรับการบริหารตามโครงสร้างใหม่ เผยครูถวายฎีกาอื้อเพราะได้รับผลกระทบจนหมดกำลังใจ "วิษณุ"ขอชี้แจงสภาเอง ทรท.เตรียมผ่าทางตันปล่อยให้ตกในที่ประชุมร่วม ๒ สภา แล้วร่างใหม่ ฝ่ายค้านจ้องถล่ม ชี้ดื้อดึงจนได้เรื่อง

          รายงานข่าวจากกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) แจ้งเมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ว่า สำนักราชเลขาธิการฯได้ส่งคืนร่าง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากลับมารัฐบาล หลังจากนำขึ้นทูลเกล้าฯเพื่อให้ทรงลงพระปรมาภิไธยเมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และต่อมาองค์กรครูหลายองค์กรได้ถวายฎีกาว่า ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้มีข้อบกพร่องจำนวนมาก และสร้างผลกระทบต่อข้าราชการครูอย่างมาก

          รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับความบกพร่องในร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว มีสาระสำคัญหลายจุด เช่น การเขียนชื่อกระทรวงในหลายมาตราผิดไป แทนที่จะเขียนชื่อ "กระทรวงศึกษาธิการ" เป็น "กระทรวงการศึกษา" การบรรจุแต่งตั้งเขียนเฉพาะ "การสั่งบรรจุ" แต่ไม่มีคำว่า "การแต่งตั้ง" มีการเขียนให้แต่งตั้ง "ครูปฏิบัติการ" ทั้งที่ตำแหน่ดังกล่าวไม่มีแล้ว และประเด็นสำคัญมีการตัดบัญชีเงินเดือนแนบท้ายออกจากร่างกฎหมาย เป็นต้น ซึ่งทาง ศธ.เองก็ยอมรับในข้อบกพร่องต่างๆ ดังกล่าว จึงได้ยกร่างแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูฯแล้ว

          รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับขั้นตอนการพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้ที่ทำให้เกิดปัญหาขึ้นคือ หลังจากสภาผู้แทนฯ ได้ผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งไม่มีบัญชีเงินเดือนแนบท้าย แต่ปรากฏว่าวุฒิสภาได้เติมบัญชีเงินตเดือนแนบท้ายพร้อมแก้ไขสาระสำคัญหลายประการ ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรไม่เห็นด้วย จึงต้องตั้งคณะกรรมาธิการร่วมของ ๒ สภาขึ้นมาพิจารณา ปรากฏว่า กรรมาธิการไม่ยอมตัดบัญชีแนบท้ายออกจากร่าง ทำให้สภาผู้แทนราษฎรไม่ยอมรับร่างดังกล่าว และให้กลับไปใช้ร่างเดิมของสภาผู้แทนราษฎร ที่ตัดบัญชีแนบท้ายออก

          นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย ในฐานะวิปรัฐบาล ยอมรับว่ามีการส่งร่างกฎหมายคืนรัฐบาล โดยขึ้นตอนต่อไปต้องดูตามรัฐธรรมนูญ ทางรัฐสภาจะมีวิธีดำเนินการอย่างไร ซึ่งในวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ จะมีประชุมวิปรัฐบาล คาดว่าจะได้ข้อสรุป เบื้องต้นทราบว่าร่างกฎหมายดังกล่าวมีข้อบกพร่องในเรื่องถ้อยคำ จึงต้องหารือว่าจะนำมาพิจารณาปรับปรุงอีกครั้งหรือไม่ หรือจะปล่อยให้ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ตกไปในการประชุมร่วม ๒ สภา

          นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้มีบางอย่างต้องชี้แจง ซึ่งตนจะเข้าไปชี้แจงในการประชุมสภาในวันที่ ๒๖ พฤศจิกายนนี้

          นางสิริกร มณีรินทร์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ. กล่าวว่า เป็นขั้นตอนของสภาที่มีเหตุสุดวิสัย และเป็นความผิดพลาดในส่วนของธุรการ ซึ่งสามารถแก้ไขได้ เมื่อมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นในร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวก็ต้องแก้ไขให้สมบูรณ์ โดยให้ยึดเป็นอุทาหรณ์ด้วย โดยทั้งกระทรวงศึกษาการและสภาต้องทำความเข้าใจกัน และประสานงานใกล้ชิดมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ระหว่างการปรับแก้ร่าง พ.ร.บ.นี้ให้สมบูรณ์ จะใช้กฎหมายฉบับเดิม คือ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครู พ.ศ. ๒๕๒๓ ไปก่อน โดยออกกฎคณะกรรมการข้าราชการครู (ก.ค.) เพิ่มเติมเพื่อรองรับกับโครงสร้างทางการบริหารใหม่ที่ออกโดย พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการ ศธ. ที่บังคับใช้ไปก่อนแล้ว เช่น กฎ ก.ค.ว่าด้วยการกำหนดตำแหน่งรองและผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.) กลุ่มเจ้าหน้าที่บริหารการศึกษา อาทิ ศึกษาธิการจังหวัด เป็นต้น เพื่อให้ลงตำแหน่งได้โดยไม่เดือดร้อน โดยเฉพาะตำแหน่ง ผอ.สพท.จะกำหนดตำแหน่งเป็นระดับ ๘/๙ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและสร้างประสิทธิภาพการทำงาน ดังนั้น ครูและผู้บริหารนอกสถานศึกษาในสำนักงานเขตพื้นที่ฯไม่ต้องเป็นห่วง

          นางสิริกรกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ได้เตรียมออกกฎ ก.ค.ว่าด้วย อ.ก.ค.วิสามัญเพื่อการบริหารงานในเขตพื้นที่ฯ และยังมีกรอบอัตรากำลังต่างๆ เพื่อให้กระจายอำนาจการบริหารงานบุคคลไปยังเขตพื้นที่ฯ ได้โดยเชื่อมโยงกับ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครู พ.ศ. ๒๕๒๓ ด้วย ทั้งหมดนี้ ศธ.และฝ่ายบริหารได้เตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว สามารถนำเข้าที่ประชุม ก.ค. และเสนอ ครม.เห็นชอบได้เลย โดยในการประชุมร่วมสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาในวันที่ ๒๖ พฤศจิกายนนี้ ไม่ว่ามติจะออกมาอย่างไร ศธ.ได้เตรียมความพร้อมรับทุกสถานการณ์แล้ว โดยได้หารือกับรัฐมนตรีว่าการ ศธ. และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแล้ว

          นายสุรนันท์ เวชชาชีวะ โฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ขั้นตอนการพิจารณา พ.ร.บ.ดังกล่าว เป็นดุลพินิจของประธานรัฐสภา ที่จะบรรจุเข้าวาระการประชุมร่วมของ ๒ สภา หากพิจารณาแล้วมีปัญหาจริง รัฐสภาก็อาจไม่รับ ปล่อยให้ร่างนี้ตกไป แล้วเริ่มกระบวนการตั้งแต่แรกใหม่ ซึ่งอาจจะพิจารณาผนวกเรื่องบัญชีเงินเดือนครูแนบท้ายเข้าไปด้วย

          นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ปัญหานี้เกิดขึ้นเพราะความดื้อดึงของรัฐบาลที่ไม่ฟังเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนฯ และวุฒิสภา ถ้ารัฐบาลนำร่างกฎหมายเข้าสู่สภาร่วม พรรคได้เตรียมทีมอภิปรายถึงปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดที่มาจากความดื้อดึงของรัฐบาล

          นายสนั่น สุธากุล ส.ส.สตูล พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องนี้มีการรายงานในที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์แล้ว ถือเป็นการตอกย้ำความผิดพลาดและบกพร่องของรัฐบาล เป็นผลจากการที่รัฐบาลไม่ให้ความสำคัญกับกฎหมาย จึงส่งผลกระทบกว้างขวาง ตนคิดว่าจำเลยที่ต้องรับผิดชอบคือคนแรกคือนายกรัฐมนตรี เหล่านี้เป็นบทเรียนที่รัฐบาลต้องมาทบทวนบทบาทตัวเองว่า ต่อไปจะเอาการศึกษามาเล่นเกมการเมืองไม่ได้

          ด้านนายบุญรัตน์ สมคเณ นายกสมาคมนักพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐานแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กลุ่มของตนได้ทูลเกล้าถวายฎีกาเพื่อขอความเป็นธรรมในร่าง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาแก่ราชเลขาธิการเมื่อวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน เนื่องจากทางกลุ่มซึ่งเป็นผู้บริหารนอกสถานศึกษาระดับอำเภอประมาณ ๓,๐๐๐ คน ได้รับผลกระทบจากร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวนี้โดยไม่มีตำแหน่งใดรองรับ ต้องสับสนเคว้งคว้างและเสียกำลังใจในการทำงาน

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับขั้นตอนในการประกาศใช้ พ.ร.บ.นั้น รัฐธรรมนูญมาตรา ๙๓-๙๔ บัญญัติไว้ว่า "หลังจากร่าง พ.ร.บ.ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาแล้ว ให้นายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายใน ๒๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับร่าง พ.ร.บ.นั้นจากรัฐสภา เพื่อให้พระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธย และเมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้บังคับใช้เป็นกฎหมายได้ อย่างไรก็ตาม ร่าง พ.ร.บ.ใดที่พระมหากษัตริย์ไม่ทรงเห็นชอบด้วย และพระราชทานคืนมายังรัฐสภา หรือเมื่อพ้น ๙๐ วันแล้วมิได้พระราชทานคืนมา รัฐสภาจะต้องปรึกษาร่าง พ.ร.บ.นั้นใหม่ ถ้ารัฐสภาลงมติยืนยันตามด้วยด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า ๒ ใน ๓ ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสองสภาแล้ว ให้นายกรัฐมนตรีนำร่าง พ.ร.บ.นั้นขึ้นทูลเกล้าฯถวายอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้พระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธยพระราชทานคืนมาภายใน ๓๐ วัน และให้นายกรัฐมนตรีนำร่าง พ.ร.บ.นั้นประกาศในราชกิจจานุเบกษาใช้บังคับเป็นกฎหมายได้ เสมือนหนึ่งว่าพระมหากษัตริย์ทรงลงประปรมาภิไธยแล้ว" .. .


หน้าแรก | กลุ่มเสขิยธรรม | ความเคลื่อนไหว |> ประเด็นร้อน | ศาสนธรรมกับชีวิตและสังคม
นักบวชกับสังคมร่วมสมัย | จดหมายข่าวเสขิยธรรม | รวมเว็บน่าสนใจ | แผนผังไซต์
เสขิยธรรม skyd.org
สมุดเยี่ยม | แนะนำหน้านี้ให้เพื่อน

กลุ่มเสขิยธรรม ภายใต้มูลนิธิเมตตาธรรมรักษ์ ๑๔/๖๓ หมู่บ้านสวยริมธาร ๒ ซอย ๕
ถนนทวีวัฒนา-กาญจนาภิเษก แขวง/เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ ๑๐๑๗๐
โทร. ๐๒-๘๐๐-๖๕๒๖ ถึง ๘, ๐๖-๗๕๗-๕๑๕๖ โทรสาร ๐๒-๘๐๐-๖๕๔๙
... e-mail :