เสขิยธรรม
ความเคลื่อนไหว
-
หน้าแรก | สมุดเยี่ยม | แนะนำหน้านี้ให้เพื่อน | แผนผังไซต์

คิดถึงตลาดเช้า หลวงพระบาง

ภาณุ มณีวัฒนกุล
เนชั่นสุดสัปดาห์ ปีที่ ๑๒ ฉบับที่ ๕๖๙ วันที่ ๒๘ เม.ย.- ๔ พ.ค. ๒๕๔๖

 

          ผมว่าคนเคยไปหลวงพระบาง ร้อยทั้งร้อยมักชอบตลาดเช้าที่หลวงพระบางอีกแง่มุมหนึ่ง นั่นหมายถึง ตลาดเช้าหลวงพระบางได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปแล้ว ชนิดที่คนเมืองหลวงพระบางเอง และนักท่องเที่ยวบางที (อาจ) ไม่รู้ตัว

          เคยได้ยินคนอายุหกเจ็ดสิบปี และสุขภาพแข็งแรงพอไปเที่ยวเมืองหลวงพระบางกลับมาแล้วนั่งน้ำตาไหล บอกว่า ตลาดเช้าเมืองหลวงพระบาง เหมือนตลาดเช้าที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของแกและได้อาศัยอยู่เมื่อสมัยเป็นเด็ก

          คนชอบอะไรเก่าๆ คงมีความสุขตาและใจ ที่ได้เห็นและสัมผัสบรรยากาศเดิมๆ ภาพแม่ค้าแม่ขายและคนในตลาดเป็นผู้หญิง ยังเกล้ายังมวยผม และนุ่งผ้าถุงผ้าซิ่น หิ้วตะกร้า กระเดียดกระจาดกระบุง เดินจ่ายตลาด เลือกดูสินค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพืชผักผลไม้ต่างๆ

          ผมยังไม่แก่ และไม่ใช่คนชอบอะไรที่เก่าๆ แก่ๆ มากนัก แต่พอเห็นตลาดหลวงพระบางด้วยตา ก็ใจระทึกอยู่เหมือนกัน เพราะมันเหมือนกับที่เคยเห็นแต่รางๆ หรือจำจากบรรยากาศในตัวหนังสือของนักเขียนรุ่นเก่าก่อน ซึ่งเคยบรรยายสภาพตลาดบ้านนอกเอาไว้

          ครั้นพอไปเห็นตลาดหลวงพระบาง บวกกับความจำพวกนั้น ยังมีอยู่บ้าง ก็ทำให้เห็นภาพขึ้นมาได้ จึงประทับใจและขนลุกอยู่เหมือนกัน

          สารภาพตามตรงว่า แม้เป็นคนภาคกลางก็จริง ทว่า ดันไปชอบ บรรยากาศของตลาดตามชนบททางภาคเหนือ

          เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน ผมมีโอกาสตะลอนๆ อยู่ทางภาคเหนือของเมืองไทย ยังจำภาพคราวไปเที่ยวตลาดท่าตอน ตลาดเปียงหลวง เมืองแหง ตลาดเช้าเมือปาย และปางมะผ้า หรือที่แม่สะเรียง ก็ยังจำได้ ตลาดเหล่านี้ดูเหมือนคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน เพราะบางแห่งมีชนพื้นเมืองล้วนๆ บ้างมีชาวไทยภูเขาปะปน

          ทว่าที่สุด ตลาดพวกนี้สวยจริงๆ ทั้งสภาพแวดล้อม บรรยากาศ และผู้คน รวมถึงสินค้าที่พ่อค้าแม่ขายเอาออกมาวางบนพื้นบ้าง วางบนแคร่บ้าง และจำนวนไม่น้อย บรรทุกหลังลา หรือฬ่อ ออกมาจากไร่ จากสวนในป่าลึก

          อย่างนี้ไม่สวยได้ไงครับ

          แม่ค้าบางรายปูใบตองวางดอกสลิดที่อุตส่าห์จัดเรียงเอาไว้ในกระทงใบตองเขียววาว บ้างเอาเห็ดนางฟ้าผิวขาวเหมือนเกลือออกมาจัดเรียงบนถาดใบไม้อะไรก็ไม้รู้ ผักกูดเรียงเป็นตับมัดด้วยเชือกกล้วย

          โธ่...ไม่กินผมยังซื้อเลย

          เมื่อเร็วๆ นี้กลับไปเที่ยวตามเส้นทางเดิมอีกหน ไม่ใช่เพราะอยากไปรื้อความหลังดอกครับ (ยังไม่แก่ขนาดนั้น) ทว่า ไปเพราะอยากไป ตลาดแถวนั้นเปลี่ยนไปหมดแล้ว ผมไม่ได้ใจหายหรือเป็นทุกข์ร้อนอะไร ก็คงเพราะรู้อยู่แล้วว่ามันต้องเป็นไปอย่างนี้กระมัง

          กลับมากรุงเทพฯร้อนตับแลบ ผมก็เลยทำตัวเป็นคนแก่ คิดถึงตลาดเช้าที่หลวงพระบาง ซึ่งไปมาครั้งหลังสุดสักสองสามปีที่ผ่านมา ก็พบว่ายังไม่เปลี่ยนไปจากครั้งแรกที่ได้เห็นเมื่อเจ็ดปีก่อน

          ใครเดินตลาดสดที่ไหนก็ตาม (รวมทั้งเมืองหลวงพระบาง) ต้องตื่นเช้าครับ จะนอนตื่นสาย หรือนอนกินบ้านกินเมือง ประมาณว่ารอให้ตะวันปลุกเห็นทีไม่ได้เห็น หรือพลาดบรรยากาศตลาดเช้าอย่างไม่ต้องสงสัย

          ตลาดเช้าหลวงพระบางนั้น อยู่ใกล้ท่าเรือ (แม่โขง) ด้วย เดินขึ้นจากท่าเรือ ถ้าตรงไปก็เข้าเมือง สองข้างมีสินค้าวางขายไปตลอด ส่วนมากเป็นพืชผัก ถ้าเลี้ยวซ้ายก็มีแม่ค้าพ่อขายเอาผักปลามาวางขายบนข้างถนนยาวประมาณร้อยเมตร

          ส่วนขวามือนั้นเป็นตลาดใหญ่ มีเพิงขายของจำพวกเนื้อสัตว์ ของหมักดอง และเครื่องปรุงอาหารอื่นๆ รวมทั้งอาหารสำเร็จรูปบางอย่าง ตรงหัวมุมทางขวามือ มีร้านขายก๋วยเตี๋ยวอยู่ร้านหนึ่ง ข้างๆ หรือตรงข้ามกันเป็นร้านขายกาแฟ

          ใครอยากกินก๋วยเตี๋ยวเป็นอาหารเช้าพร้อมด้วยกาแฟ สองร้านนี้ไม่น่าลอง

          อย่างไรก็ตาม ผมอยากเตือนสักหน่อยว่า ก๋วยเตี๋ยวที่ร้านในตลาดแห่งนี้ (หรือแห่งไหนก็ตามในลาว) แม่ค้าใส่ผงชูรสเยอะ ที่ว่าเยอะนี่นะเยอะจริงๆ ไม่ใช่พูดเล่นพูดขู่ เรียกว่าใส่กันเป็นช้อนชาทีเดียว (แล้วที่ใส่ลงไปในน้ำต้มกระดูกอีกไม่รู้เท่าไหร่)

          จึงขอเตือนว่าใครแพ้หรือไม่กินผงชูรสชนิดเคร่งครัด ให้นั่งดื่มกาแฟร้านตรงข้ามดีกว่า และเดินไปซื้อขนมที่ทำจาก (แป้ง) ข้าวเหนียวมากิน ไม่ว่าจะเป็นข้าวจี่ ข้าวเหนียวหน้าต่างๆ สบายใจสบายปากกว่า

          ผมลองกินก๋วยเตี๋ยวครับ บอกแม่ค้าว่าไม่ต้องใส่ผงชูรส ก๋วยเตี๋ยวเนื้อคว(า)ยที่ร้านนี้ เนื้อมันเหนียว เคี้ยวนาน จนลืมตัวคิดว่าเคี้ยวหนังยาง

          วันรุ่งขึ้นผมจึงกินก๋วยเตี๋ยวไม่ใส่เนื้อ ใส่แต่ผัก เยอะแยะไปหมด ทั้งกะหล่ำ ผักน้ำ ถั่วงอก เท่านั้นไม่พอ เพราะแม่ค้ายกกะละมังผักสดมาวางตรงหน้า แทนคำพูดทำนอง ว่า ...มีปัญญากินเท่าไหร่ก็เชิญ

          เครื่องปรุงรสก๋วยเตี๋ยว นอกจากน้ำปลา น้ำตาล พริกน้ำส้ม ยังมีซอสพริกสีแดงออกส้มแจ๊ด คนทางโน้นเขาชอบเทลงไปกินผสมก๋วยเตี๋ยว โดยเฉพาะก๋วยเตี๋ยวน้ำ รสชาติเป็นอย่างไรก็ไม่ทราบ เพราะผมไม่กล้าลอง

          ก๋วยเตี๋ยวดูเหมือนราคาจานละสิบสองหรือสิบห้าบาทนี่แหละครับ จานเบ้อเริ่มเชียว ผมนั่งกินก๋วยเตี๋ยวและดื่มกาแฟถุงรสเข้ม คือทั้งหวาน มัน และขม สีของมันเข้มจัด เหมือนกาแฟมอคคา ทว่า นอกนั้นไม่มีอะไรอีกที่เหมือน

          กินก๋วยเตี๋ยวมันต้องมองเส้นมองน้ำ ระวังไม่ให้เลอะกระเด็นโดนเสื้อ แต่ดื่มกาแฟ มันสามารถละเลียดได้ ยกถ้วยขึ้นจ่อปากแล้วใช้สายตากวาดมอง ออกไปนอกร้าน กระดกถ้วยลิ้มรสกาแฟ มองดูผู้คนและบรรยากาศของตลาดในเมืองหลวงพระบาง

          เท่านี้ก็รื่นรมย์

          หมายเหตุ : คราวนี้ภาพประกอบไม่มีคำบรรยายนะครับ ดูไปคิดไปก็แล้วกัน .. .

หน้าแรก | กลุ่มเสขิยธรรม |> ความเคลื่อนไหว | ประเด็นร้อน | ศาสนธรรมกับชีวิตและสังคม
นักบวชกับสังคมร่วมสมัย | จดหมายข่าวเสขิยธรรม | รวมเว็บน่าสนใจ | แผนผังไซต์
เสขิยธรรม https://skyd.org
สมุดเยี่ยม | แนะนำหน้านี้ให้เพื่อน

กลุ่มเสขิยธรรม ๑๒๔ ซอยวัดนพคุณ ถนนสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กรุงเทพฯ ๑๐๖๐๐
โทร. ๐๒-๘๖๓๑๑๑๘, ๐๖-๗๕๗๕๑๕๖ โทรสาร ๐๒-๔๓๗๙๔๔๕
... e-mail :